รถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ ยี่ห้อไหนดี? (Top 5 ยี่ห้อที่ดีที่สุด 2566)

เปิดข้อมูลลับ! กับรถกระบะ 4 ประตูเกียร์ออโต้ยี่ห้อไหนดีที่คุณคู่ควร

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจหรือมองหารถกระบะ 4 ประตูแบบเกียร์ออโต้อยู่ล่ะก็ บทความนี้คงจะเป็นตัวช่วยชั้นดี ที่จะเข้ามาทำให้คุณตัดสินใจในการเลือกซื้อรถกระบะได้ง่ายมากยิ่งขึ้น!

เพราะอย่างที่เราทราบกันดี ว่าในปัจจุบันนี้ทางค่ายรถยักษ์ใหญ่หลายๆ เจ้า ได้ปล่อยรถกระบะ 4 ประตูออกมาดึงดูดใจกลุ่มลูกค้ากันอย่างมากมาย รุ่นนั้นก็เท่ รุ่นนี้ก็โดนใจ จนทำหลายๆ คน ถึงกับกุมขมับ! ว่าแท้ที่จริงแล้วควรจะเลือกรถกระบะ 4 ประตูแบบเกียร์ออโต้รุ่นไหนหรือยี่ห้อไหนดี

โดยในวันนี้ทางทีมงานก็ไปเสาะหาข้อมูลลับ ฉบับพิเศษในการเลือกซื้อรถกระบะ 4 ประตูแบบเกียออโต้มาฝาก ซึ่งจะมีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลย!

ข้อดีและข้อเสียของกระบะ 4 ประตูแบบเกียร์ออโต้ที่คุณต้องรู้!

ในส่วนของข้อดีและข้อเสียของรถกระบะ 4 ประตูแบบเกียร์ออโต้นั้น มีข้อแตกต่างกันอยู่ โดยเราจะขอสรุปแบบสั้นๆ ให้คุณเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นดังนี้

ข้อดี

• ขับง่าย สามารถขับได้ทุกคน
• ไม่มีปัญหาเกียร์กระตุก เกียร์กระชากเหมือนเกียร์ธรรมดา
• ไม่เมื่อยขา เมื่อต้องขับรถทางไกล

ข้อเสีย

• เกียร์ออโต้ราคาสูงกว่าเกียร์กระปุก
• อายุการใช้งานสั้นกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเกียร์กระปุก
• มีค่าซ่อมรักษาแพงกว่า หากมีปัญหาเกิดขึ้น

นี่เป็นข้อดี/ข้อเสียหลักๆ ของรถกระบะ 4 ประตูแบบเกียออโต้ที่คุณต้องรู้ก่อนเป็นอันดับแรก

ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อรถกระบะ

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อรถกระบะ 4 ประตูแบบเกียออโต้นั้น คุณต้องลองถามตัวเองให้ดีก่อนว่า ปัจจัยสำคัญในการซื้อรถนั้นคืออะไร?

ถามตัวเองง่ายๆ ว่า เราจะซื้อไปทำอะไร? ซื้อไปใช้งานแบบไหน? เป็นหลัก

เช่น บางคนเอาไปบรรทุกสินค้าเป็นหลัก บางคนเอาไว้ขับแบบปกติทั่วไป หรือบางคนอยากจะซื้อรถเพื่อเอาไปแต่งตามความชอบ

ซึ่งถ้าคุณตอบตัวเองได้แล้วว่าต้องการซื้อรถกระบะ 4 ประตูแบบเกียออโต้ไปทำอะไร มันก็จะช่วยให้การเลือกซื้อรถของคุณนั้นง่ายมากขึ้นกว่าเดิมมากๆ

เพราะคุณจะสามารถมองหารถกระบะ 4 ประตูแบบเกียออโต้ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างตรงจุดจริงๆ (และบางทีมันจะช่วยให้เราไม่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น กับรุ่น ส่วนเสริมหรือออปชั่น ที่เราแทบไม่ได้ใช้งานเลย)

Top 5 ยี่ห้อและรุ่นรถกระบะ 4 ประตู แบบเกียร์ออโต้ ยอดนิยม

1. Isuzu D-Max

หากกล่าวถึงรถกระบะ 4 ประตูแบบเกียออโต้ ก็คงจะพลาดไม่ได้กับ Isuzu D-Max ที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและดูเท่ ทำให้เจ้ารถรุ่นนี้สามารถตีตลาดกลุ่มคนที่ชอบรถกระบะ 4 ประตูแบบเกียออโต้ได้อย่างแตกกระจุย!

โดย Isuzu D-Max นั้น มีถึง 4 รุ่นย่อยให้คุณได้เลือกกัน นั่นก็คือ

• Isuzu D-Max Hi-Lander 4 ประตู 1.9 Ddi (Z) AT ราคา 917,000 บาท
• Isuzu D-Max Hi-Lander 4 ประตู 1.9 Ddi (Z-Prestige) AT ราคา 990,000 บาท
• Isuzu D-Max Hi-Lander 4 ประตู 1.9 Ddi M AT ราคา 1,023,000 บาท
• Isuzu D-Max Hi-Lander 4 ประตู 3.0 Ddi (Z-Prestige) AT ราคา 986,000 บาท
• Isuzu D-Max Hi-Lander 4 ประตู 3.0 Ddi M AT ราคา 1,054,000 บาท

และหากชอบลุยแบบโฟวิล 4×4 และมีงบเหลือ สามารถขยับไปดูรุ่น V-Cross ได้เลย

• Isuzu D-Max V-Cross 4X4 3.0 Ddi M AT ราคา 1,157,000 บาท

(สงสัยว่า Isuzu D-Max ดีไหม? ลองอ่านบทความนี้เลย รถกระบะ Isuzu D-max ดีไหม? )

2. Toyota Revo Rocco 2021

Toyota ยังคงเป็นเจ้าตลาดในกลุ่มของรถกระบะอย่างต่อเนื่อง! ด้วยการปล่อย Toyota Revo Rocco 2021 ออกมาเอาใจลูกค้า ซึ่งแน่นอนว่า Toyota Revo Rocco 2021 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะทางผู้ผลิตได้ดีไซน์ด้านหน้าให้แตกต่างจาก Hilux Revo อย่างเห็นได้ชัด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อโดยมี 2 รุ่นย่อยให้คุณได้เลือกซื้อคือ

• Double Cab Prerunner 2.4 Rocco AT ราคา 1,050,500 บาท
• Double Cab 4×4 2.8 Rocco AT ราคา 1,210,500 บาท

ถ้างบไม่ใช้ปัญหาเลือก Rocco ได้เลยครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วแนะนำ Revo ก็น่าจะครอบคลุมเพียงพอแล้วต่อการใช้งาน ซึ่ง Revo ก็มีรุ่น 4 ประตู เกียร์เกียร์อัตโนมัติ ให้เลือก ตามนี้เลย

• Toyota Revo Double Cab 4 ประตู Z Edition 2.4 MID STD AT ราคา 794,000 บาท
• Toyota Revo Double Cab 4 ประตู Z Edition 2.4 MID AT ราคา 809,000 บาท
• Toyota Revo Double Cab 4 ประตู Prerunner 2.4 Entry AT ราคา 857,000 บาท
• Toyota Revo Double Cab 4 ประตู Prerunner 2.4 MID AT ราคา 922,000 บาท
• Toyota Revo Double Cab 4 ประตู Prerunner 2.4 HIGH AT ราคา 1,009,00 บาท
• Toyota Revo Double Cab 4 ประตู 4×4 2.8 HIGH AT ราคา 1,159,000 บาท

3. Ford Ranger

สำหรับกระบะค่ายดังสัญชาติอเมริกัน อย่าง Ford Ranger ก็มีรุ่น 4 ประตู เกียร์ออโต้ มาให้เลือกหลายรุ่นเช่นกัน

• Ford Ranger Double Cab 4 ประตู 2.2L XLT Hi-Rider 6AT ราคา 889,000 บาท
• Ford Ranger Double Cab 4 ประตู 2.2L XLT 4×2 HR 6AT (FX4) ราคา 919,000 บาท
• Ford Ranger Double Cab 4 ประตู 2.0L Turbo Limited Hi-Rider 10AT ราคา 959,000 บาท
• Ford Ranger Double Cab 4 ประตู 2.0L Turbo Limited 4×4 10AT ราคา 1,039,000 บาท
• Ford Ranger Double Cab 4 ประตู 2.0 Wildtrak Hi-Rider 10AT ราคา 1,029,000 บาท
• Ford Ranger Double Cab 4 ประตู 2.0 Bi-Turbo Wildtrak 4×4 10AT ราคา 1,265,000 บาท

ถ้าชอบในความดุดัน บึกบึน สายลุย Ford Ranger น่าจะตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน

4. Mitsubishi Triton Athlete

ไม่ต้องแต่งก็เท่ได้! นี่คงจะเป็นนิยามของ Mitsubishi Triton Athlete รถกระบะ 4 ประตูแบบเกียร์ออโต้ ที่บอกได้คำเดียวว่าขับไปไหนยังไงคนก็ต้องมอง! เพราะสีสันที่โดดเด่น บวกกับส่วนขุมพลังใช้เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบแปรผัน (VG) อินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที ทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นที่ถูกจับตามองจากกลุ่มลูกค้าไปโดยปริยาย

• Mitsubishi Triton Athlete รุ่น 4 ประตู Double-Cab Plus GT AT ราคา 985,000 บาท
• Mitsubishi Triton Athlete รุ่น 4 ประตู Double-Cab Plus AT 4WD ราคา 1,156,000 บาท

5. Nissan Navara 2021

บอกได้เลยว่าทาง Nissan ได้ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี จนทำให้ Nissan Navara 2021 สามารถเข้ามาเจาะกลุ่มลูกค้าได้อย่างอยู่หมัด! ด้วยการออกแบบภายในที่เรียบหรู แต่ยังคงแฝงไปด้วยความดุดันของภายนอก ส่งให้ Nissan Navara 2021 ขึ้นแท่นติดอันดับเข้ามาเป็น รถกระบะ 4 ประตูแบบเกียออโต้ยอดนิยมเจ้าหนึ่งในตลาดรถกระบะปัจจุบันด้วยเช่นกัน

• Nissan Navara Double Cab รุ่น CALIBRE E 7AT ราคา 899,000 บาท
• Nissan Navara Double Cab รุ่น CALIBRE V 7AT ราคา 965,000 บาท
• Nissan Navara Double Cab รุ่น 4WD VL 7AT ราคา 1,129,000 บาท
• Nissan Navara Double Cab รุ่น PRO-2X 2WD 7AT ราคา 999,000 บาท
• Nissan Navara Double Cab รุ่น PRO-4X 4WD 7AT ราคา 1,149,000 บาท

สรุป

จากข้อมูลข้างต้น คงจะพอช่วยให้คุณสามารถเลือกรถกระบะ 4 ประตูแบบเกียร์ออโต้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น!

ซึ่งใจความสำคัญในการเลือกซื้อรถที่เราอยากจะให้คุณนึกถึงมากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการใช้งาน ว่ารุ่นกระบะ 4 ประตูแบบเกียร์ออโต้รุ่นไหนสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้มากที่สุด

อีกทั้งเรื่องการบริการหลังการขายก็สำคัญมากๆ เลือกค่ายที่เขาขึ้นชื่อเรื่องบริการหลังการขายดีๆ จะดีกว่า (อาจจะไปสืบดูในคลับค่ายรถกระบะรุ่นนั้นๆ หรือสอบถามจากคนรู้จักที่ใช้รถรุ่นนั้นๆ เอาก็ได้)

เพราะรถเมื่อเราซื้อไปแล้วเราใช้อยู่ทุกวัน มันก็ต้องมีการเข้าศูนย์เพื่อบำรุงรักษาตามช่วงอายุการให้งาน กันไปอีกหลายปี หากค่ายรถยนต์ที่คุณเลือกมีบริการหลังการขายที่แย่ รับรองว่าคุณจะปวดหัวไปอีกหลายปีเลยทีเดียว 😆

ดังนั้นคุณต้องตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและครอบคุมทุกครั้ง ก่อนที่จะเซ็นสัญญาซื้อรถ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมาหลังจากซื้อรถไปแล้วนั่นเอง!